เก้าอี้ไม้ในห้องรับแขก - เก้าอี้ไม้ในห้องรับแขก นิยาย เก้าอี้ไม้ในห้องรับแขก : Dek-D.com - Writer

    เก้าอี้ไม้ในห้องรับแขก

    สำนึกของมนุษย์หนึ่งคน เมื่อกระทำผิดและถูกลงโทษแล้ว เขาจะสำนึกได้หรือไม่ เรื่องนี้จะบอกคุณว่า บรรทัดฐานความดีและความอยู่รอดของมนุษย์ทำให้แต่ละคนต่างเลือกทางเดินที่ต่างกันออกไป

    ผู้เข้าชมรวม

    1,232

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.23K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ธ.ค. 50 / 10:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เก้าอี้ไม้ในห้องรับแขก
       
       
                 ร่างเล็กๆ แฝงตัวเงียบเชียบในเงามืดดันตัวกระโดดข้ามกำแพงอย่างชำนาญ รองเท้าผ้าใบเก่าๆ ที่รองรับเท้ากระทบพื้นด้านล่างอย่างแผ่วเบา ตามมาติดๆ ด้วยร่างสันทัดใกล้เคียงกัน ทั้งคู่อาศัยความมืดของยามค่ำคืนย่องเงียบกริบไปที่ประตูหลังบ้าน แล้วควักถุงมือที่เตรียมมาออกจากกระเป๋า สวมใส่มันอย่างชำนาญ เครื่องมือสองสามชิ้นที่ทั้งคู่ติดตัวมาด้วยช่วยให้เปิดประตูนั้นได้อย่างง่ายดาย เท้าที่แผ่วเบาทั้งสองคู่พาเจ้าของร่างตามกันเข้าไปในตัวบ้าน จุดมุ่งหมายคือห้องรับแขก ทีวีสีจอแบนขนาด 50 นิ้วที่หมายตาไว้คงต่ออายุของทั้งคู่ได้นานเป็นเดือน เครื่องซักผ้าและตู้เย็นไม่ใช่ของต้องตาสำหรับพวกเขา คนที่นำมาส่งสัญญาณให้เพื่อนจัดการกับโทรทัศน์นั้นด้วยความเงียบ

                  ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังง่วนอยู่กับการถอดสายโทรทัศน์อย่างแผ่วเบา ชายรูปร่างเล็กอีกคนก็เดินสำรวจไปรอบๆ ห้องรับแขกนั้นเพื่อหาของมีค่าชิ้นอื่นที่พอจะยกออกไปได้โดยสะดวก อย่างน้อยก็ไม่ควรชิ้นใหญ่โตไปกว่ารถซาเล้งที่เขานำมาจอดไว้บริเวณใกล้เคียง แม้จะมั่นใจว่าในบ้านไม่มีใครอยู่เพราะขี่ซาเล้งรับซื้อของเก่ามาตระเวนดูเกือบสัปดาห์จนแน่ใจแล้ว หากแต่การทำให้เงียบเข้าไว้ย่อมมีความเป็นไปได้สำหรับความสำเร็จของงานมากกว่า

                  เขาหยิบถุงผ้าอย่างหนาที่เตรียมติดตัวออกมาคลี่ออก ก่อนจะค่อยๆ เปิดตู้โชว์ที่ประดับด้วยเครื่องเคลือบดินเผาดูมีราคาลงอย่างทะนุถนอม แสงจากกระบอกไฟฉายที่เตรียมมาให้ความสว่างมากพอจะกระทบอะไรก็ตามที่สะท้อนแสงเข้าตาได้ ตุ๊กตาคริสตัลที่ตั้งโชว์ไว้เหนือเครื่องเคลือบก็ถูกกวาดไม่มีเหลือ เมื่อสายตาเริ่มชินกับความมืด เขาก็มองสำรวจไปรอบๆ ห้องรับแขกนั้น เฟอร์นิเจอร์ในห้องมากมายมีราคาแพง ฝีมือประณีตสมกับเป็นเครื่องแต่งบ้านของคนมีฐานะพอให้เขาเข้ามาขอแบ่งสมบัติไปยาไส้กันตาย แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งที่แปลกออกไปจากชุดเฟอร์นิเจอร์แบบสมัยใหม่อื่นๆ

                  มันเป็นเก้าอี้ไม้ ที่ถูกแกะลวดลายอย่างบรรจง ประกอบเป็นรูปร่างด้วยความประณีต ผิวไม้เนียนเรียบไม่มีที่ติ ที่สำคัญมันเป็นงานฝีมือล้วนๆ ซึ่งมีชิ้นเดียวในโลกนี้ เขาจำมันได้ดี

                  ชายร่างเล็กนึกย้อนไปเมื่อประมาณหกเดือนก่อน หลังจากที่เขาอยู่ที่นั่นมาสักพักใหญ่ด้วยข้อหาลักทรัพย์ ในที่สุดเมื่อเขาใกล้จะได้ออกมาจากที่นั่นแล้ว เขาก็มีสิทธิ์ได้ฝึกอาชีพเป็นช่างเฟอร์นิเจอร์ไม้ เขานั่งขัด นั่งถู นั่งแกะสลักลวดลาย ประกอบมันเข้าเป็นเก้าอี้ผลงานชิ้นเอกด้วยมือของเขาเอง มันถูกขายไปด้วยราคาพอสมควร ขายไปให้กับใครสักคนที่เขาไม่มีวันรู้จัก เขารู้แต่ว่าเมื่อออกมาจากที่นั่นเขาก็ใช้เงินที่ได้มาจากการขายเก้าอี้ตัวนั้นจนหมดภายในเวลาไม่กี่วัน จนกระทั่งเขาต้องมาหาเงินเพื่อต่ออายุอีกครั้ง ณ ที่นี้ เวลานี้

                  ผู้คุมตั้งความหวังไว้ว่าเขาจะออกไปเป็นช่างเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีฝีมือที่สุด ผู้คุมหวังว่าเขาจะไม่ต้องเข้าไปแบ่งสมบัติใครใช้ประทังชีวิตอีก ขณะนั้นเขาก็หวังเช่นเดียวกัน แต่แล้วเมื่อเขาออกมาจริงๆ ความหวังนั้นก็ดูจะริบหรี่กว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก ไม่มีใครต้องการคนอย่างเขา ไม่มีใครต้องการรับคนที่เคยมีข้อหาลักทรัพย์ติดตัวเข้าทำงาน ครั้นจะเริ่มกิจการด้วยตนเองก็เห็นทีจะไม่มีทุนรอนมากพอทางเดียวที่จะเลี้ยงชีพตัวเองได้คือหันกลับสู่ทางสายเดิมของเขา การเป็นขโมย
      !

                 
      “เจ้าของบ้านไม่อยู่”

                  เขารำพึงในใจขณะที่ชะงักการกวาดข้าวของ เขาเริ่มสำนึกผิดที่ทำลายความหวังของผู้คุมที่ดูจะเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ เขาเริ่มสำนึกผิดที่ทำลายความหวังของตัวเอง งานเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างหากที่จะช่วยให้เขาไม่ต้องกลายเป็นเศษเดนสังคมเช่นทุกวันนี้

                “จะไม่มีทางอื่นให้เลือกเดินอีกแล้วจริงๆ หรือ”

               
      เขาถามตัวเองในใจ จนเมื่อได้คำตอบกับตัวเองแล้วจึงวางคริสตัลและเครื่องเคลือบโบราณราคาแพงไว้ที่เดิมช้าๆ เขาเดินไปทางเพื่อนที่กำลังง่วนอยู่กับการถอดสายโทรทัศน์ ส่งสัญญาณว่ายกเลิกการขโมยโทรทัศน์นั้นเสีย แล้วเดินออกมาจากห้องรับแขกนั้นโดยไม่หันกลับมาอีกเลย
       
      .....
       
                  สามเดือนต่อมา มีร้านเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ เปิดใหม่ เจ้าของร้านเป็นชายร่างเล็ก ผิวขาว อัธยาศัยดี มีไมตรีต่อลูกค้าทุกคน เขาขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยราคาเป็นกันเอง หากแต่งานของเขาทุกชิ้นกลับมีฝีมือประณีตบ่งความใส่ใจของคนทำเป็นอย่างดี

                  กิจการของเขารุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ จากร้านเล็กๆ ขยายออกมาเป็นโชว์รูมขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีลูกจ้างนับสิบคน ชายร่างเล็กกลายเป็นเจ้าของกิจการที่มีรายได้ในระดับไม่ขัดสนอีกต่อไป แม้จะภูมิใจในความพยายามหนักเอาเบาสู้ของตนเอง แต่เขาก็คงไม่สามารถลืมได้ว่าสิ่งที่ทำให้เขามีวันนี้ได้คือเก้าอี้ไม้ในห้องรับแขกตัวนั้นที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจไม่ต้องเป็นโจรกระจอกขโมยทีวีและของเล็กๆ น้อยๆ ในห้องรับแขกของคนอื่นอีกต่อไป 

                ถึงอย่างไรเสียเขาก็สำนึกบุญคุณของเจ้าของบ้านหลังนั้น ทองคำหนักหลายสิบบาทที่เขางัดได้จากเซฟที่ห้องนอนก็ทำให้เขาสร้างกิจการเฟอร์นิเจอร์ไม้นี้จนรุ่งเรืองได้อย่างรวดเร็วไม่หยอกเลยทีเดียว
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×